วันศุกร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2555

“เอ” ยิ้มออก “เติ้ล” ยอมตรวจ DNA รับตื่นเต้นจะได้ป๊ะหน้ากันในรอบ 2 ปี

“เอ” ดีใจ “เติ้ล” ยอมตรวจ DNA พิสูจน์เป็นพ่อ “น้องเอวี่” หรือไม่? ศาลนัดชี้ขาด 26 มิ.ย.นี้ ลั่นมั่นใจว่าผลจะออกมาว่าใช่อย่างแน่นอน เจ้าตัวรับตื่นเต้นจะได้เจอหน้าเติ้ลในรอบ 2 ปี แอบกลัวจะอ่อนแอต่อหน้า

ขึ้นโรงขึ้นศาลกันมาหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ต้องผิดหวังตลอด สำหรับนางแบบและคุณแม่ยังสาว “เอ อัญชลี หัสดีวิจิตร” ที่หลังจากเดินหน้าขึ้นศาลพึ่งกระบวนการยุติธรรม เพื่อขอให้อดีตแฟนนักธุรกิจหนุ่ม “เติ้ล คมกริช จันทรวิสูตร” เซ็นรับรองบุตรว่าเป็นพ่อของ “น้องเอวี่” ลูกสาว แต่ที่ผ่านมา ฝ่ายชายก็เบี้ยวนัดตลอด ล่าสุด สาวเออัญชลี ก็ได้ยิ้มออก เมื่อฝ่ายชายยอมตรวจ DNA เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“เรื่องคดีตอนนี้เรื่องคดีเป็นข่าวดี คือ คุณพ่อของน้องเอวี่เขาก็ยอมมาตรวจดีเอ็นเอแล้วค่ะ ตอนนี้ก็รอฟังคำสั่งศาลว่าจะให้ไปตรวจวันไหน ตกลงเป็นที่โรงพยาบาลรามาธิบดีค่ะ เพราะเป็นโรงพยาบาลของรัฐบาล และเชื่อมั่นในความยุติธรรม เชื่อมั่นว่า หลักการวิทยาศาสตร์จะทำให้ทุกอย่างกระจ่าง ถามว่า รู้สึกมั่นใจแค่ไหน หลักการวิทยาศาสตร์มันพลิกไม่ได้อยู่แล้ว อันนี้เอมั่นใจหมื่นเปอร์เซ็นต์ล้านเปอร์เซ็นต์ ว่า ต้องออกมาในสิ่งที่ควรจะเป็น”

“ทั้งนี้ทั้งนั้น มันก็ต้องรอผล ถามว่า กลัวไหม คือ พอมาถึงจุดนี้ ปุ๊บ มันก็คือการระแวงอีกของคนเป็นแม่ แบบถ้าเกิดใช่ขึ้นเราก็คิดว่าเราเป็นแม่เขา คงไม่คิดที่จะพรากลูกไปจากเรา เพราะจริงๆ แล้วแม่ก็มีสิทธิ์ที่จะเลี้ยงดูลูกโดยชอบธรรม”

“ถ้าผลออกมาแล้วใช่ ถามว่า ได้มีการพูดถึงค่าเลี้ยงดูไหม จริงๆ แล้วตามขั้นตอนของทนายความต่างๆ ถ้าร่วมกันเป็นบิดามารดาแล้วต้องช่วยกัน แต่สำหรับเอ ถ้าทางฝ่ายนู้นเขาไม่อยากเลี้ยงดูก็ไม่เป็นไร แค่เขาจดทะเบียนว่าเอวี่เป็นลูกเขาที่ถูกต้อง เขาเป็นพ่อที่ถูกต้องแค่นั้นก็ดีใจแล้ว”

“ถึงขั้นนี้เอไม่เสียใจ แต่มีความรู้สึกว่า คนเรา พ่อแม่เขาก็ต้องเป็นห่วงลูกเขาอยู่ดี จะเอาลูกหลานคนอื่นมายัดเยียดให้ใครก็คงจะไม่ยอม แต่ตัวผู้ชายเองเขารู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่ฟังจากทนายเออีกทีว่าทางนู้นเขาก็บอกไม่ได้คลางแคลงใจใดๆ ทั้งสิ้น แต่เขาก็อยากตรวจเพื่อให้ครอบครัวเขาสบายใจ ซึ่งเอคิดว่าในเมื่อเรื่องมันมาขนาดนี้แล้ว เอก็ต้องทำให้ถูกต้อง”

“ศาลนัดอีกทีวันที่ 26 มิถุนายนค่ะ ทุกอย่างต้องจบสิ้น ความรู้สึกตอนนี้ก็ตื่นเต้นที่ต้องเจอกันอีกครั้งนึงหลังจากไม่ได้เจอกันมา 2 ปี และก็ตื่นเต้นว่าเขาจะได้เห็นลูกตัวเป็นๆ อยากให้เขาเห็นลูกว่าลูกเราน่ารักแค่ไหน ตอนนี้ยังไม่เคยเจอกัน รอว่าจะไปตรวจวันไหน”

“ตอนนี้เอตอบได้เลยว่าตื่นเต้นและกลัวด้วย ว่า เราจะอ่อนแอต่อหน้าเขา แต่ถึงเวลานั้นเราก็ต้องเพื่อช่วยลูก ส่วนโยเขาบอกว่าถึงวันนั้นโยจะได้งานเป็นล้านเป็นแสนโยก็ไม่ทำ โยจะไปกับเอ จะไปให้กำลังใจ กลัวว่า เอจะอ่อนแออีก กำลังใจตอนนี้ก็ดีขึ้น เพราะว่าลูกโตขึ้น ลูกบอกว่าเอวี่รักหม่ามี๊นะ เราก็รู้สึกกำลังใจเรามากขึ้น”

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น