วันพฤหัสบดีที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2555

“แป้ง” ปลื้ม “ผู้กองต้อม” ให้แหวน ยึดเป็นของเตือนใจว่ามีคู่แล้ว

“แป้ง” รับปลื้ม “ผู้กองต้อม” ให้แหวนใส่นิ้วนางข้างซ้าย บอกเป็นของเตือนใจ ว่า มีคนคบหาแล้ว จะได้ไม่วอกแวกมองคนอื่น แต่ปัดตีตราจอง ลั่นยังไม่มีแพลนแต่งงาน เพราะต้องปรับตัวกันอีกเยอะ

ปีนี้เห็นดาราแต่งงานกันเกือบทั้งวงการ ล่าสุด แอบเห็นนิ้วนางข้างซ้ายของนักแสดงสาวผิวโอโม “แป้ง อรจิรา แหลมวิไล” จึงอดถามไม่ได้ว่า หวานใจ “ผู้กองต้อม ร.ต.อ.ทรงพันธ์ กุลดิลก” ลูกชายของ “พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก” รมว.กระทรวงคมนาคม แอบตีตราจองไว้เตรียมจะมีข่าวดีเหมือนคู่อื่นๆ หรือเปล่า? ซึ่งเจ้าตัวก็แจงด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มว่า…

“แหวนที่นิ้วนางข้างซ้าย ซื้อให้ตัวเองค่ะ (หัวเราะ) พี่ต้อมเขาซื้อให้ แต่ไม่ได้ตีตราจอง เพราะถ้าตีตราจองต้องใหญ่กว่านี้ แล้วก็ไม่ใช่วาระพิเศษอะไรด้วย ก็ซื้อให้ธรรมดา ส่วนว่าเป็นการแสดงความเป็นเจ้าของหรือเปล่า อันนี้ก็ต้องไปถามพี่เองเขา (เขาตั้งใจให้ใส่นิ้วนาง?) ก็ใส่นิ้วอื่นไม่ได้มันเล็ก ส่วนตัวก็ปลื้มนะ แต่ก็งงๆ ก็โอเค เราเอามาใส่ไว้คอยเตือนใจว่าโอเคนะ เรามีคนดูๆ อยู่ จะได้ไม่วอกแวกค่ะ”

“เราก็ไปเที่ยวญี่ปุ่นกันมาช่วงสงกรานต์ค่ะ แต่ว่าไปกัน 10 กว่าคน ไปกับเพื่อนๆ จริงๆ แป้งแพลนไว้ตั้งแต่ต้นปีแล้ว แต่ยังไม่ได้สรุปว่าจะไปด้วยหรือว่าจะมีใครไปบ้าง ก็ไม่ได้สวีตอะไรมากมาย ไปทะเลาะกัน (หัวเราะ) ไปช้อปกิโมโนมา ส่วนมากไปหาอะไรทานค่ะ และพี่ต้อมก็ซื้อผ้าพันคอให้ค่ะ (ยิ้ม)”

เหมือนเริ่มเปิดตัวเต็มที่ว่าคบกัน

“แป้งก็ไม่ได้เปิด แต่ก็ไม่ได้ปิดพี่ๆ เลยนะ เห็นพี่ๆ ก็ถาม เราก็ตอบไปตามเท่าที่จะตอบได้ จะว่าไป ณ ตอนนี้ก็ถือว่าพี่เขาเป็นคนที่สนิทที่สุดค่ะ คบกันตอนนี้ลงตัวไหม ไม่ทราบ เพราะว่ายังทะเลาะกันอยู่เลยทุกวัน ก็ยังไม่รู้เลยว่าจะลงตัวยังไง คือ โตๆ กันแล้ว คำว่าแฟนเหมือนวัยรุ่นคบกัน แต่ตอนนี้มันโตแล้ว คงไม่ได้ใช้คำนั้นแล้ว คงเรียกว่าโอเคดูๆ กันไปแล้วกัน”

“แป้งไม่ได้ขี้งอน อยู่ที่ฝั่งเขา เราจะเป็นคนขี้หงุดหงิด เรื่องนิดเดียวทำไมต้องทำให้เป็นเรื่อง แต่ว่าท้ายที่สุดมันก็ไม่มีอะไรหรอก ก็เถียงๆ กันไปให้มันชิน สนุกปาก เพราะเราสนิทกันมาก แต่เวลาเงียบๆ เขาก็จะถามว่าวันนี้เป็นอะไรทำไมดูนิ่งๆ พอนิ่งมากก็ว่า พอบ่นมากก็ว่า ก็เลยเหมือนเป็นความเคยชินที่กัดกันสนุกๆ”

เผยยังต้องปรับตัวกันหากันอีกเยอะ เพราะต่างมีข้อบกพร่อง

“มีอีกเยอะค่ะ ตัวแป้งเองข้อบกพร่องก็ค่อนข้างเยอะ ก็ต้องปรับเยอะเหมือนกัน เราก็มีคุยบ้าง จริงๆ เวลาที่เรากัดกัน บางทีมันไปไกลไป ก็บอกว่าแป๊บนึง เข้าเกียร์หนึ่งพอ อย่างเพิ่งเข้าเกียร์สี่เกียร์ห้า เดี๋ยวไม่ทัน หนักสุดคือ แย่งปู แย่งขาปู ก็คือ จริงๆ ไม่ใช่เรื่องซีเรียสเรื่องใหญ่หรอก แต่ก็เถียงกัน สักพักเริ่มไม่ยอม เริ่มเยอะ แบบว่าเฮ้ยเรามาทะเลาะกัน เพราะแย่งกินขาปูนี่นะ สั่งใหม่ไหม ตลกดีอ่ะ”

“แป้งว่าความเป็นเพื่อนมันสามารถอยู่ได้ยาวกว่า เพราะเราอายุขนาดนี้ ผ่านช่วงหวือหวา มีใครคบเป็นแฟนคนไหนสนุกอะไรยังไง ท้ายที่สุดต่อให้อยู่กันไป 5-10 ปี ยังไงก็เป็นเพื่อนกัน”

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น