วันพุธที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2555

“ภูริ” ปฏิเสธตัดชุดวิวาห์เมืองนอก เมินถูกมองแต่งเดือนเดียวกับ “แป้ง” แฟนเก่า

“ภูริ” โต้ควง “แอน” ตัดชุดวิวาห์ที่เมืองนอก ยันใช้ดีไซเนอร์ไทย แจงตอนนี้แอนไปเมืองนอกเลยต้องเบรกการเตรียมงานไว้ก่อน ส่วนสินสอดบอกได้คำเดียว ว่า มีเท่าไหร่ให้หมด ก่อนออกตัวไม่รู้แฟนเก่า “แป้ง” ได้ฤกษ์แต่งเดือนเดียวกัน

กำลังจะมีข่าวดีจูงมือกันเข้าประตูวิวาห์ในวันที่ 11 ตุลาคม นี้ สำหรับดาราหนุ่ม “ภูริ หิรัญพฤกษ์” และสาว “แอน อลิชา ไล่ศัตรูไกล” ล่าสุด มีข่าวว่า ทั้งคู่ควงกันไปดูชุดวิวาห์ถึงต่างประเทศ ว่าที่เจ้าบ่าวจึงขอแจงก่อนจะเข้าใจผิดไปกว่านี้ว่าไม่จริง ยันตัดชุดและใช้ดีไซเนอร์ฝีมือคนไทยแน่นอน ส่วนเรื่องสินสอดยอมทุ่มเต็มที่ ทำงานหาเงินมาได้เท่าไหร่ยกให้หมด

“ทีมงานตอนนี้อยู่ที่ต่างประเทศ ไปถ่ายรายการ ไม่ได้ไปดูชุดอะไรเลยครับ ความคืบหน้าตั้งแต่ครั้งที่แล้วที่เราคุยกัน คือ ตอนนี้ยังไม่มีความคืบหน้าเลยครับ เพราะว่าตั้งแต่วันนั้นถึงวันนี้ คุณแอนไปแล้วยังไม่กลับเลย ก็เลยไม่ได้คุยกัน”

“ข่าวไปหาดีไซน์เนอร์ที่เมืองนอกก็คงไม่น่าจะใช่ คงเป็นดีไซเนอร์ที่เมืองไทยนะครับ ใช้ดีไซเนอร์ในไทยนี่แหละครับ ส่วนผ้าจะมาจากเมืองนอกไหม อันนี้ไม่ทราบครับ ต้องถามคุณแอนเพราะหน้าที่เสื้อผ้าให้คุณแอนเป็นคนดูแลครับ เดี๋ยววันเสาร์นี้ก็กลับมาแล้วครับ ก็น่าจะได้คุยกัน”

“น่าจะเต็มที่เรื่องการหมั้นก่อน วันที่ 11 ตุลาคม แล้วฉลองก็อาจจะหลังจากนั้นหน่อย คร่าวๆ วันหมั้นก็ชุดไทยแน่นอน แล้ววันแต่งต้องคุยกันอีกที เพราะยังไม่ลงตัว ที่แน่นอน คือ งานหมั้นวันที่ 11ตุลาคม ตอนนี้เตรียมไปถึงแค่วันเลี้ยงฉลองเอง ก็มีคุยกับผู้ใหญ่ไว้แล้วครับ”

“มีคนบอกว่าสินสอดหลายหลัก ก็ไม่ได้ซีเรียสเรื่องนั้นมากกว่า มันเป็นไปตามประเพณีครับ มีเท่าไรก็ให้หมด ผมทุ่มหมดครับ ที่ผมหามาให้หมดเลยครับ ส่วนเรือนหอก็เป็นบ้านหลังที่โดนน้ำท่วมแหละครับ ปีหน้าคงไม่โดนน้ำท่วมแล้ว ก็อยู่หลังนั้นไปก่อน มีเตรียมใจไว้ครับ บ้านก็ไม่ต้องเตรียมถ้าน้ำท่วม เราอยู่ด้วยกันได้ไม่เป็นไร”

เมินถูกมองแต่งเดือนเดียวกับแฟนเก่า “แป้ง อรจิรา แหลมวิไล” ยันไม่รู้มาก่อน

“หลายคนจับตามองแต่งเดือนเดียวกับแป้ง อันนี้ผมไม่ทราบเลย เพิ่งทราบ เพราะไม่ได้คุยกันเลย ก็ยินดีด้วย ที่ผ่านมาเราก็คุยในฐานะเพื่อน ก็ยินดีด้วยครับ ใครแต่งงานผมก็ยินดีด้วย เชิญร่วมงานอยู่แล้วครับ”



ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น