หลังจากเข้าพิธีหมั้นไปเมื่อวันที่ 18 มี.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการจัดขึ้นภายในครอบครัว ล่าสุดเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 25 มี.ค. ที่ผ่านมา นักแสดงสาวชื่อดัง “แนน ชลิตา เฟื่องอารมย์” ได้ควงกับแฟนหนุ่มนักธุรกิจนำเข้าอาหารสัตว์ “เม่น ธนวัต ดุษฎีวิจัย” จัดงานฉลองมงคลสมรสขึ้น ณ ห้องรอยัลบอลรูม โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล
บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างชื่นมื่น เต็มไปด้วยความอบอุ่น บริเวณงานถูกตกแต่งด้วยดอกไม้สีขาวอย่างสวยงาม โดยมีนาย “สุเทพ เทือกสุบรรณ” ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี นอกจากนี้ยังมีญาติสนิทและเพื่อนพ้องในวงการบันเทิงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกันอย่างคับคั่ง อาทิ ประวิทย์ มาลีนนท์ บิ๊กบอสช่อง 3, มยุรฉัตร เหมือนประสิทธิเวช, ดวงดาว จารุจินดา, กอบสุข จารุจินดา, ยศสินี ณ นคร, วรายุท มิลินทจินดา, ยุวดี ไทยหิรัญ, ฉัตรชัย-สินจัย เปล่งพานิช, เมย์ เฟื่องอารมย์, ชาตโยดม หิรัญยัษฐิติ ควงคู่มากับว่าที่เจ้าสาว สุนิสา เจทท์,เอ็ม อรรถพล, เกด นารากร และครอบครัว, ชรัส เฟื่องอารมย์, ยุ้ย ปัทมวรรณ ฯลฯ นอกจากนี้แล้วคนที่ถูกจับตามมองไม่แพ้บ่าว-สาวก็คือสาว “จอย รินลณี ศรีเพ็ญ” เพื่อนสาวคนสนิทของ “น็อต วรฤทธิ์ เฟื่องอารมย์” น้องชายของเจ้าสาว ที่มาร่วมงานด้วยแต่ก็ยังสงวนท่าทีไม่ยอมให้ถ่ายรูปคู่กันเหมือนเดิม
ทั้งนี้ก่อนเริ่มงาน “แนน ชลิตา” ได้ควงเจ้าบ่าว “เม่น ธนวัต” ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงการเริ่มต้นชีวิตคู่ว่า...
แนน : “ก็ตื่นเต้นเหมือนกันค่ะ ทุกคนเมตตาเรา และก็มาร่วมงานกันเยอะ กลัวว่าจะต้อนรับไม่ทั่วถึง ขอบคุณทุกท่านจริงๆ ที่ให้ความสำคัญกับเราทั้งสองคน เพราะว่าจริงๆ พี่เม่นเขาไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิง และเขาก็จะรู้สึกเขินๆ ก็ขอบคุณทุกคนที่มาแสดงความยินดีนะคะ ขอบคุณมากค่ะ”
“งานหมั้นที่ผ่านมาก็ดีนะคะ เพราะว่ามีแต่คนในครอบครัวมาร่วมงาน แล้วก็คือคุณพ่อขอให้มีพิธีรดน้ำสังข์ มีแห่ขันหมาก แล้วก็มีสวมแหวนแบบไทย เพราะคุณพ่อแบบไทยมาก คือตอนแรกแค่คิดว่าจะสวมแหวนกันเองในครอบครัว แล้วก็มียกน้ำชาให้คุณแม่พี่เม่น แต่คุณพ่อขอแบบจัดเต็ม ก็คือมีแห่ขันหมาก มีรดน้ำสังข์ แล้วก็สวมแหวนค่ะ”
นับจากวันหมั้นจนถึงวันนี้ได้ใช้ชีวิตคู่ร่วมกันเป็นยังไงบ้าง?
เม่น : “ก็ดีครับ ดีมาก เขินครับ”
แนน : “ก็ใช้ชีวิตร่วมกันมาสัปดาห์หนึ่งแล้วค่ะ จริงๆ ก็ไม่ค่อยเปลี่ยนมาก เพราะว่าบ้านพี่เม่นกับบ้านแนนอยู่ใกล้กันมาก ประมาณ 10 นาที ก็เดินทางถึง แล้วก็ตัวเขาค่อนข้างมาใช้ชีวิตกับทางครอบครัวเราเยอะ คือเขาจะนัดทานข้าวกับคุณแม่กับน็อต (วรฤทธิ์) บ่อย เหมือนเป็นคู่หูไปไหนไปกัน คือน็อตเหมือนมีเพื่อนในกลุ่มเพิ่มอีกคน ก็คือพี่เม่น”
ดีใจที่เจอคนที่จะใช้ชีวิตร่วมกัน ไม่คิดว่าจะมามีวันนี้ เพราะอายุก็เกินที่จะแต่งงานแล้ว
แนน : “ก็ไม่คิดนะว่าจะได้แต่งงาน พูดจริงๆ (หัวเราะ) เพราะว่าส่วนใหญ่ผู้หญิงก็จะแต่งงานกันตอนอายุ 30 ปี แนน 36 คือเราเกินมาเยอะแล้วค่ะ ก็ไม่คิดว่าวันหนึ่งจะมี แต่ว่าเมื่อวันหนึ่งเดินทางมาถึงตรงนี้ก็เรียกว่าดีใจดีกว่า ที่เราเจอเพี่อนตาย ต้องใช้คำนั้นนะคะ แล้วก็เราไม่ได้มีความรักที่หวือหวาเหมือนคนอื่น ความรักของเราไม่ได้จี๊ด แต่เราคิดว่าเราเป็นเพื่อนกัน เราอยู่ด้วยความเข้าใจ”
ด้านเจ้าบ่าวเผยไม่มีการคุกเข่าขอแต่งงานเหมือนคู่อื่น แต่รวบรวมความใจกล้าเขาไปหาคุณพ่อของสาวแนน แล้วบอกว่าอยากดูแลแนน
แนน : “ไม่มีเลย ไม่ได้ขอก็คือเหมือนกับเราเคยคุยกันเรื่องอนาคตตลอด ถ้าเกิดเราแต่งงานกันแล้วจะมาอยู่อย่างนี้ ก็เลยคิดว่านั่นแหละคงเป็นคำขอ แล้วพี่เม่นเขาก็ไปพูดกับคุณพ่อ วันที่เขาไปบอกคุณพ่อเขาก็บอกว่าอยากจะดูแลแนน แต่คุณพ่อก็บอกว่ารอก่อน พี่เม่นพูดเมื่อปีที่แล้ว คุณพ่อก็บอกว่ารอสักสิ้นปีละกัน พอดีสิ้นปีเกิดเรื่องค่อนข้างยุ่งยาก ก็เลยย้ายมาเป็นมีนาคมปีนี้”
เม่น : “ไม่ได้ขอเลย แต่เข้าไปบอกคุณพ่อของแนนว่า ผมอยากดูแลแนนครับ คุณพ่อเขาบอกว่าแนนไม่เคยทำงานบ้านเลยนะครับ (หัวเราะ) เขาบอกตรงๆ และบอกว่ายังไงก็ดูแลน้องละกัน”
ผ่านด่านน็อตน้องชายยากไหม เพราะค่อนข้างจะหวงพี่สาว?
เม่น : “ไม่ครับ คุณพ่อยากกว่านะ แต่คุณแม่เขาจะช่วยดูให้ระดับหนึ่ง”
แนน : “คุณแม่รักพี่เม่นมากๆ ค่ะ”
ทั้งคู่เผยถึงความประทับใจที่ทำให้เลือกกันและกันมาเป็นคู่ชีวิต
แนน : “แนนว่าพี่เม่นเขาเป็นคนสม่ำเสมอ ตอนคบกันเมื่อ 3 ปีที่แล้วเป็นอย่างไร ตอนนี้ก็เหมือนเดิมไม่เปลี่ยน คือคอยดูแลเรา พี่แม่นอายุมากกว่าแนน 6 ปี ที่เราประทับใจเขาก็เพราะว่ารู้สึกว่าเขาเป็นผู้ใหญ่เป็นผู้นำ คิดว่าถ้าเราจะฝากชีวิตกับใครสักคนหนึ่งก็น่าจะอยู่ที่เขาได้”
เม่น : “แนนก็นิสัยเหมือนเดิม ไม่เคยเปลี่ยนนะครับ เนื่องจากเราสนิทน้องชายและคุณแม่เขามาก ทุกอย่างเลยรู้สึกว่าเรากลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเขา”
คำมั่นสัญญาที่มีให้กันก่อนแต่งงาน สาวแนนกล่าวน้ำตาคลอเบ้าว่า
แนน : “ไม่มีนะคะ คือเราแต่งงานเมื่อตอนอายุเยอะ ต้องใช้คำนี้ดีกว่านะ ก็อาจจะอยู่กันเหมือนเป็นเพื่อนสนิท เป็นเพื่อนที่รู้ใจ แล้วก็เราจะแก่ไปด้วยกัน”
ความพร้อมที่จะเป็นแม่บ้านแม่ศรีเรือน
แนน : “(หัวเราะ) คือจริงๆ ไม่ค่อยเป็น ต้องเรียนตามตรง เพราะว่าเราก็เป็นคนทำงานนะคะ จริงๆ พี่เม่นเรื่องเข้าครัวทำอาหารจะเก่งกว่า แต่ว่าส่วนใหญ่เราสองคนจะทานข้าวนอกบ้านกันอยู่แล้ว ถ้าเกิดอยากทานอะไรพิเศษก็จะสั่งแม่บ้านค่ะ”
ส่วนเรือนหอนั้น ตอนนี้อยู่ที่บ้านหลังเดิมของฝ่ายชายไปก่อน เพราะยังสร้างไม่เสร็จ คาดว่าจะเสร็จในปีหน้า ซึ่งอยู่ในบริเวณรั้วบ้านเดิมของฝ่ายสาว
แนน : “ช่วงนี้อยู่บ้านพี่เม่นก่อนค่ะ พอดีที่บ้านกำลังสร้างใหม่ค่ะ คือสร้างอยู่ในบริเวณบ้านตัวเอง คือมีบ้านน็อต บ้านแนน แล้วก็บ้านคุณพ่อคุณแม่ พี่เม่นเขาก็จะมาอยู่เป็นครอบครัวเรา บ้านหลังนี้กว่าจะเสร็จก็อีก 1 ปี แต่ว่าช่วงปีนี้ก็ย้ายไปอยู่บ้านเขาก่อน”
สำหรับเรื่องทายาททั้งคู่ยังไม่ขอมีตอนนี้ อยากใช้ชีวิตคู่ด้วยกันสองคนก่อน
เม่น : “ยังไม่คิดเลยครับ อยากทำงานไปก่อน”
แนน : “(หัวเราะ) ยังค่ะ ก็คงอยู่ด้วยกันไปก่อน”
ส่วนเรื่องฮันนีมูนนั้น เจ้าบ่าวมีแพลนจะพาไปอเมริกา
เม่น : “อยากจะพาเขาไปอเมริกา ไปซานฟรานซิสโก เพราะผมเคยเรียนที่นั่นครับ ก็อยากพาเขาไปซานฟรานซิสโก คิดว่าคงจะไปกันภายในปีนี้ อาจจะไปสัก 2 สัปดาห์ คิดว่าคงพอแล้ว เพราะว่าทำงานด้วย”
ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น